บทสรุป “นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์” หนแรกในฤดูกาลนี้เป็นฝั่ง “สีแดง” อาร์เซน่อล ได้รับการชูมือเหนือ “สีขาว” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ อย่างเป็นเอกฉันท์
นี่คือเกมที่ อาร์เซน่อล สมควรได้ชัยชนะต่อหน้าแฟนบอลตัวเองใน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และรักษาตำแหน่งจ่าฝูงของตารางเอาไว้ได้อย่างน้อยอีกหนึ่งสัปดาห์
มิเกล อาร์เตต้า ได้ใช้งานผู้เล่นชุดใหญ่อีกครั้งหลังสามผู้เล่นสำคัญฟิตกลับมาลงตัวจริงทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น โธมัส ปาร์เตย์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ มาร์ติน โอเดการ์ด นั่นทำให้ 11 ตัวจริงที่เคยลงพร้อมกันตลอด 4 นัดแรก ได้แท็กทีมอีกครั้งในเกมสำคัญสุดอีกนัดของฤดูกาล
ส่วนทางฝั่ง สเปอร์ส ได้ อูโก้ โยริส ฟิตกลับมาเฝ้าเสา แต่แนวรุกขาด เดยัน คูลูเซฟสกี้ ที่เจ็บ ทำให้ ซน ฮึง-มิน ที่ปลดล็อกยิงประตูได้แล้วก่อนเบรกทีมชาติ ได้เล่นร่วมกับ แฮร์รี่ เคน และ ริชาร์ลิซอน ตั้งแต่นาทีแรก
เหมือนเช่นหลายครั้งที่ผ่านมา ทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกหมัดกันตั้งแต่เริ่มเสียงนกหวีดยาว อาร์เซน่อล ได้ลุ้นครั้งแรกจากลูกวอลเลย์มุมแคบของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่ โยริส ต้องปัดปลายมือก่อนบอลชนเสา ขณะที่ สเปอร์ส ก็มีโอกาสหวาดเสียวจาก ริชาร์ลิซอน สอดมาแหย่ลูกเปิดของ เอริก ดายเออร์ ทำเอา อารอน แรมส์เดล ต้องผวาเซฟหวุดหวิด
ประตูแรกของเกมเกิดขึ้นจนได้หลังเข็มนาฬิกาเดินมาถึงนาทีที่ 20 พอดี และเป็นลูกยิงที่แฟนบอลปืนใหญ่ทั่วโลกรอคอยมานาน 2 ปีเต็มกับการยิงไกลหน้าเขตโทษของ โธมัส ปาร์เตย์
นับตั้งแต่ย้ายมาจาก แทงบอล ในปี 2020 ปาร์เตย์ หาโอกาสส่องไกลนอกเขตมาแล้ว 56 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถส่งบอลตุงตาข่ายได้เลย หลายต่อหลายครั้งลอยโด่งข้ามคาน
แต่ครั้งที่ 57 เป็นครั้งที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ บอลออกจากเท้าอย่างแม่นยำก่อนตีโค้งแหวกอากาศเสียบสามเหลี่ยมสวยงาม อูโก้ โยริส หมดสิทธิ์ด้วยประการทั้งปวง
ติดตามข่าวสารได้ที่ greenapplegames.com